การดำเนินการทั่วโลกของเรา
สหรัฐฯ คือตลาดหลักที่เติบโตในเครือข่ายทั่วโลกของเอมิเรตส์ เอมิเรตส์ได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินตรงสำหรับผู้โดยสารระหว่างดูไบกับนิวยอร์กจอห์น เอฟ เคนเนดี ในเดือนมิถุนายน 2004 แล้วหลังจากนั้นก็ขยายเส้นทางไปยังฮิวสตัน ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก ดัลลัส/ฟอร์ตเวิร์ต ซีแอทเติล วอชิงตัน ดีซี บอสตัน ชิคาโก้ ออร์แลนโด นวร์ก และไมอามี
โดยรวมแล้ว เราได้ให้บริการเที่ยวบินโดยสาร 96 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ระหว่างดูไบกับสหรัฐฯ สี่เที่ยวบินต่อวันไปนิวยอร์กด้วยเที่ยวบินตรงสองเที่ยวและผ่านทางมิลานและเอเธนส์อย่างละหนึ่งเที่ยว ให้บริการไปบอสตัน ชิคาโก ดัลลัส/ฟอร์ตเวิร์ต ฮิวสตัน ลอสแอนเจลิส ไมอามี ซานฟรานซิสโก ซีแอตเทิล และวอชิงตัน ดีซี ทุกวันและเที่ยวบินไปออร์แลนโดห้าเที่ยวต่อสัปดาห์ ด้วยเที่ยวบินเพิ่มเติมใหม่ระหว่างเอเธนส์ นวร์กในเดือนมีนาคม 2017 ทำให้ส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ยุโรปของเอมิเรตส์ในแง่ของความถี่เที่ยวบินรายสัปดาห์และจำนวนที่นั่งยังคงต่ำกว่า 1% เอมิเรตส์ให้บริการด้วยเครื่องโบอิ้ง 777 ไปยังจุดหมายปลายทางทั้งเจ็ดแห่งในสหรัฐฯ บริษัทยังได้ให้บริการด้วยเครื่องแอร์บัส A380 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น Engine Alliance ซึ่งผลิตในสหรัฐฯ ไปยังฮุสตัน ลอสแอนเจลิส นิวยอร์กเจเอฟเค ซานฟรานซิสโก และวอชิงตัน ดีซี
ในปีงบประมาณ 2022-23 สายการบินเอมิเรตส์ได้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารในเส้นทางสหรัฐฯ จำนวนเกือบ 3.2 ล้านคนด้วยอัตราส่วนที่นั่งเฉลี่ย 77% ในด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เอมิเรตส์ได้นำพามาซึ่งนักท่องเที่ยวผู้มีกำลังซื้อสูงและนักธุรกิจจากตลาดสำคัญ ๆ ซึ่งกำลังเติบโตในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิก
เครือข่ายการขนส่งสินค้าของสหรัฐฯ ในปัจจุบันโดย Emirates SkyCargo ให้บริการขนส่งไปยังชิคาโก โคลัมบัส ฮิวสตัน ลอสแอนเจลิส และไมอามี ในปีงบประมาณ 2022-23 มีการส่งมอบยาเพื่อการช่วยชีวิตผู้ป่วยและเภสัชภัณฑ์ที่ต้องการได้รับการดูแลเป็นพิเศษกว่า 1,900 ตันผ่าน 'Emirates Pharma' ออกจากชิคาโกและส่งกุ้งล็อบสเตอร์กว่า 1,200 ตันจากบอสตัน สายการบินเอมิเรตส์ยังให้บริการขนส่งสิ่งของต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์เกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซจากฮิวสตันและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ จากลอสแอนเจลิส
สายการบินเอมิเรตส์ช่วยเชื่อมโยงสหรัฐฯ กับตลาดเกิดใหม่ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า และการสร้างงานของอเมริกาต่อไปในอนาคต ซึ่งประกอบด้วย 14 แห่งในตะวันออกกลาง 20 แห่งในแอฟริกา และ 43 แห่งในเอเชียแปซิฟิก
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของสายการบินเอมิเรตส์ในเอกสารสรุปข้อมูลของเรา ‘สายการบินเอมิเรตส์ในสหรัฐฯ’(เปิด PDF ในแท็บใหม่) และ ‘การสร้างมูลค่าให้แก่สหรัฐฯ’(เปิด PDF ในแท็บใหม่)
เอมิเรตส์ได้ให้บริการสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2004 ด้วยการเสนอบริการเที่ยวบินโดยตรงไปยังมากกว่า 50 เมืองที่ยังไม่มีผู้ให้บริการสัญชาติอเมริกันรายใดให้บริการโดยตรง แก่ผู้บริโภค ชุมชน และบริษัทส่งออกของสหรัฐฯ เราภูมิใจที่ได้มีส่วนในเป้าหมายการเปิดน่านฟ้าเสรี ซึ่งได้แก่: การแข่งขันมากขึ้น รอบเที่ยวบินมากขึ้น โปรโมชั่นสำหรับการท่องเที่ยวและการเดินทางทางธุรกิจ บริการที่ดีขึ้น นวัตกรรมที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และตัวเลือกของลูกค้า
ในปี 2015 สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ และอเมริกันแอร์ไลน์ เริ่มรณรงค์ที่กล่าวอ้างว่าเอมิเรตส์ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลดูไบ ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงการเปิดน่านฟ้าเสรีระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของเอมิเรตส์ในขณะนั้น ซึ่งได้แบ่งปันกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาด้วย ได้พิสูจน์หักล้างข้อกล่าวหาทั้งหมดอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
คุณสามารถอ่านข้อโต้แย้งฉบับสมบูรณ์และเอกสารอื่นๆ ได้ที่ด้านล่างนี้
การศึกษาวิจัยโดย Campbell-Hill แสดงให้เห็นว่าผลกระทบของเอมิเรตส์ที่มีต่อสหรัฐฯ นั้นมหาศาลมาก: สร้างรายได้รวมกว่า 21,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อีกทั้งยังสร้างรายได้กว่า 10,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ GDP และรายได้แรงงานกว่า 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างการจ้างงานได้มากกว่า 104,000 ตำแหน่ง
ข้อมูลผลกระทบและการดำเนินงานประจำปี 2015
หากต้องการดูข่าวประชาสัมพันธ์ บทสรุปสําหรับผู้บริหาร และรายงานฉบับสมบูรณ์ รวมถึงอินโฟกราฟิกที่เน้นย้ำผลการศึกษาสำคัญของการศึกษาวิจัย โปรดคลิกที่ลิงก์ด้านล่าง
การวิเคราะห์อิสระโดยท่าอากาศยานและส่วนภูมิภาคของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่านอกจากการเสนอบริการลูกค้าและผู้ขนส่ง ตัวเลือกบริการขนส่งทางอากาศที่แข่งขันได้มากขึ้นและสะดวกยิ่งขึ้น เที่ยวบินของเรายังสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการจ้างงานได้อย่างมากมายให้แก่เมืองต่างๆ ที่เราให้บริการให้สหรัฐฯ
ในเดือนพฤศจิกายน 2014 การท่าอากาศยานของนิวยอร์กและนิวเจอร์ซี่ ได้เสร็จสิ้นการประเมินผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของเอมิเรตส์ในนิวยอร์ก ผลการประเมินนี้คาดการณ์ว่า เที่ยวบินวันละสามเที่ยวบินของเอมิเรตส์ที่เดินทางไปยังและออกจากสนามบิน JFK ในปี 2013 สนับสนุนการจ้างงานกว่า 3,720 ตำแหน่งในเขตพื้นที่มหานครนิวยอร์ก-นิวเจอร์ซี คิดเป็นค่าจ้างกว่า 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้ 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกิจกรรมในเขตพื้นที่นี้โดยรวม
การศึกษาที่จัดทำโดย Los Angeles Economic Development Corporation พบว่าเที่ยวบินระยะทางไกล อย่างเช่นเที่ยวบินของเราไปยังท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิสก่อให้เกิดรายได้กว่า 623.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในผลประโยชน์ประจำปีของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สนับสนุนการจ้างงาน 3,120 ตำแหน่งในแคลิฟอร์เนียใต้ทั้งทางตรงและทางอ้อม และสร้างรายได้เป็นค่าจ้างรายปีได้ถึง 156 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Houston Airport System กับมหาวิทยาลัยฮิวสตันได้สร้างแบบจำลองผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในการเปิดตัวเที่ยวบินของเอมิเรตส์ไปยังฮิวสตันทุกวัน ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ผลประโยชน์ที่คาดการณ์จะอยู่ที่ 257 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ในขณะที่มีผู้โดยสารใหม่เดินทางไปยังหรือเดินทางผ่านฮิวสตันปีละ 98,000 คน จากรายงานของ DFW Airport มีการคาดการณ์อีกด้วยว่า เที่ยวบินของเอมิเรตส์จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ในผลประโยชน์ประจำปีของเศรษฐกิจของภูมิภาคดัลลัส/ฟอร์ตเวิร์ต จากการที่มีผู้มาเยือนเพิ่มขึ้น มีการสร้างธุรกิจและการลงทุนเพิ่มขึ้น
Greater Orlando Aviation Authority ประมาณการว่าการให้บริการของเอมิเรตส์ในออร์แลนโดจะสร้างรายได้เป็นมูลค่ามากกว่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำปี และสนับสนุนการจ้างงานกว่า 1,400 ตำแหน่ง ซึ่งสามารถเพิ่มรายได้ถึง 188 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการปรับปรุงเครื่องบิน
การคาดการณ์มูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมภายในท้องถิ่นประจำปีสำหรับสนามบิน 9 แห่งจากทั้งหมด 12 แห่งและพื้นที่โดยรอบซึ่งเอมิเรตส์ได้ให้บริการไปยังสหรัฐฯ นั้นมีมูลค่าถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความร่วมมือระหว่างสายการบินเอมิเรตส์กับสหรัฐฯ ได้นำพาผลประโยชน์ร่วมกันมาสู่ผู้โดยสาร พันธมิตรสายการบินสหรัฐฯ และชุมชนชาวสหรัฐฯ สายการบินเอมิเรตส์ได้ลงนามในข้อตกลงเชิงพาณิชย์กับสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ในปี 2022 ซึ่งรวมถึงความร่วมมือในเที่ยวบินที่ใช้รหัสร่วมกัน ตลอดจนรางวัลของผู้โดยสารที่เดินทางเป็นประจำและสิทธิประโยชน์ร่วมกันในการใช้บริการห้องรับรองผู้โดยสารสำหรับลูกค้าที่เป็นตามเกณฑ์ นอกจากนี้ ปัจจุบันเอมิเรตส์ได้มีข้อตกลงร่วมระหว่างสายการบินกับสายการบินอลาสก้าแอร์ไลน์ เจ็ทบลูแอร์เวย์ ซันคันทรีแอร์ไลน์ และซิลเวอร์แอร์เวย์ ซึ่งให้บริการผู้โดยสารหลายร้อยคนต่อวันในเครือข่ายภายในประเทศของตน ในปี 2022 ผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์กว่า 122,000 คนได้ต่อเครื่องกับสายการบินพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา
สหรัฐฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่างมีความสัมพันธ์ในเชิงพาณิชย์และการเมืองที่แน่นแฟ้น ความสัมพันธ์ทางการค้าของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในความสัมพันธ์ที่เติบโตเร็วที่สุด และยังคงเป็นปลายทางการส่งออกอันดับต้น ๆ ของสหรัฐฯ ในทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) มาเป็นเวลา 14 ปีติดต่อกัน ในปี 2022 การส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีมูลค่าถึง 20,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสนับสนุนการจ้างงานชาวอเมริกันประมาณ 105,976 ตำแหน่ง* ในปี 2022 สหรัฐฯ มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นมูลค่า 13,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 6 จากทั่วโลก ในปี 2021 การส่งออกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปยังสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 6,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
*คำนวณโดยการใช้ข้อมูลตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้น 5,095 ตำแหน่งต่อมูลค่าการส่งออก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาในปี 2019
ตลาดการส่งออกไปยัง MENA 10 อันดับแรกของสหรัฐฯ ในปี 2022:
ประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ | มูลค่าการส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) | อันดับตลาดส่งออก | % การเปลี่ยนแปลงจากปี 2021 |
---|---|---|---|
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 20.84 | 21 | 22% |
อิสราเอล | 14.20 | 27 | 10% |
ซาอุดีอาระเบีย | 11.40 | 32 | 2% |
อียิปต์ | 6.37 | 43 | 9% |
โมร็อกโก | 3.72 | 51 | 33% |
กาตาร์ | 3.67 | 52 | 42% |
คูเวต | 3.39 | 54 | 12% |
จอร์แดน | 1.58 | 71 | 31% |
โอมาน | 1.49 | 72 | 6% |
บาห์เรน | 0.95 | 84 | 2% |
ที่มา: US Census Bureau
ในเดือนพฤศจิกายน 2013 เอมิเรตส์ได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777X จำนวน 150 ลำ มูลค่า ตามราคา 76,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงเครื่องยนต์ GE9X ของ GE Aviation จำนวน 300 เครื่อง นับเป็นอีกบทหนึ่งในประวัติศาสตร์อันยาวนานระหว่างเอมิเรตส์กับเครื่องบินในตระกูลโบอิ้ง 777 ทั้งนี้ การสั่งซื้อเครื่องบินในครั้งนี้เป็นการสั่งซื้อที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในอุตสาหรรมการบินพาณิชย์ของสหรัฐฯ และยังเป็นสัญญาการสั่งซื้อเครื่องยนต์เจ็ทพาณิชย์จากสายการบินครั้งที่ใหญ่ที่สุดของ GE Aviation
ในเดือนพฤศจิกายน 2015 เอมิเรตส์ได้เซ็นสัญญามูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับบริษัท GE Aviation สำหรับบริการบำรุงรักษา ซ่อมแซม และการปรับปรุงเครื่องยนต์ (MRO) รุ่น GE9X ซึ่งจะใช้ขับเคลื่อนเครื่องบินโบอิ้ง 777X ในระยะเวลา 12 ปี นี่คือสัญญา MRO มูลค่าสูงสุดของเอมิเรตส์เท่าที่เคยมีมา
ระหว่างงาน Dubai Airshow 2019 เอมิเรตส์ได้ประกาศข้อตกลงในการซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 จำนวน 30 ลำ มูลค่าตามราคาขายที่ 8,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะนำมาให้บริการแทนเครื่องบิน 777X บางส่วนภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงกับบริษัท Boeing เครื่องบินโบอิ้งรุ่นใหม่นี้จะช่วยให้เอมิเรตส์สามารถรักษาการเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีฝูงบินที่ใหม่ที่สุดทั่วโลก เนื่องจากจะนำฝูงบินใหม่นี้เข้ามาแทนที่เครื่องบิน 777 รุ่นเก่าบางลำ
เครื่องบินโบอิ้ง 777 เป็นแกนหลักของฝูงบินของสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องบินโดยสารให้บริการอยู่ทั้งหมด 133 ลำ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงที่สุดของทุกสายการบิน โดยส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ของ GE Aviation และมีคำสั่งซื้อเครื่องบินของโบอิ้งรุ่นถัดไปรออยู่อีกกว่า 150 ลำ รวมถึงรุ่น 777X , 787 และเครื่องบินบรรทุกสินค้า 777-200LR ด้วย
คำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งทั้งหมดของเอมิเรตส์ตั้งแต่ปี 1991 อยู่ที่ 346 ลำ ตามข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มตำแหน่งงานของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ปี 2019 โดยอิงจากปีที่มีการสั่งซื้อ เครื่องบินทั้งหมดของเอมิเรตส์ เครื่องยนต์และคำสั่งซื้อ MRO (ทั้งในอดีตและปัจจุบัน) กับบริษัท Boeing และ GE Aviation ได้ทำให้เกิดการสร้างงานเกือบ 1 ล้านตำแหน่งในสหรัฐอเมริกา